วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

อำนาจของน้ำหอม



เมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ขณะทีี่ราชสำนักฝรั่งเศสกำลังคึกครื้นกับการทดลองปรุงน้ำหอม เพื่อพระนางมารีอังตัวเน็ตต์ พระราชินีที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีศิลปะในเรื่องการวางตัวให้สมเป็นผู้หญิงมากที่สุดในยุคนั้น นาย ฌอง-หลุยส์ ฟาร์จียอง นักสุคนธศาสตร์ (นักปรุงน้ำหอม) ของพระนาง ได้ค้นพบปัจจัยหลายอย่างในการทำให้เครื่องหอมของเขาให้มีกลิ่นที่พิเศษสำหรับพระองค์ นั่นคือ การปรุงน้ำหอมให้มีลักษณะกลิ่นที่สดชื่นคล้ายเด็กสาว อ่อนโยนเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ และเย้ายวนเกินห้ามใจ !

เรียกได้ว่า รวมความย่ิงใหญ่ทุกอย่างที่อิสตรีควรจะมีเลยเชียวค่ะ

หากในอีกฝากหนึ่งของโลก คือ ราชสำนักของอยุธยา ก็เริ่มมีการปรุงน้ำหอมระเหยด้วยเหมือนกัน แต่น้ำหอมไทยโบราณเป็นน้ำหอมที่ทำจากดอกไม้สด เช่น มะลิ เกสรดอกโมก เกสรดอกบัวหลวง และนำมาผสมกับสมุนไพรไทย เช่น พิมเสน ผิวมะกรูด ใบเตย แม้หอมไม่ยาวนานนักเพราะใช้วิธีธรรมชาติ แต่ก็บำรุงผิวกายให้เปล่งปลั่งนวลเนียนจากส่วนผสมของสมุนไพร ดังนั้น น้ำหอมไทยโบราณจึงมักจะหอมเย็นๆ แต่รัญจวนใจ สมกับเป็นกุลสตรี
เห็นไหมคะ…ทุกๆ แห่งทั่วโลกของเรา ให้ความสำคัญกับเครื่องหอมมานานแล้ว โดยเฉพาะในหมู่อิสตรีที่ต่างเสาะแสวงหาความงามอันสัมผัสได้ด้วยกลิ่นนี้มาปรนเปรอให้กับตัวเองและโดยเฉพาะเพื่อใช้ในเชิงสเน่หา…และแม้ในปัจจุบันนี้ บทบาทของผู้หญิงจะเปลี่ยนไป ผู้หญิงสมัยใหม่คงไม่จำเป็นต้องเสาะหาแต่เครื่องปรุงความงามเพื่อให้ชนะใจชายที่ตนพึงใจ แต่เราก็คงปฎิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะ

ว่าถ้าเราจะมีกลิ่นกายที่หอมและแสดงออกถึงความเป็นตัวเราได้จริงๆ สิ่งนั้นย่อมเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้ และสามารถ มัดใจใครก็ได้ที่คุณหมายปองอีกต่างหาก
แต่ก่อนที่คุณๆ จะค้นหากลิ่นของตนเอง ขอเล่าอย่างง่ายๆ เกี่ยวกับการทำงานของน้ำหอมก่อนนะคะ

น้าหอมมีความมหัสจรรย์ของตัวเองค่ะ ส่วนประกอบส่วนหนึ่งของน้ำหอมประกอบด้วยแอลกฮอล์ และตัวแอลกฮอล์นี่ละค่ะ ทำหน้าที่สร้างปฎิกิริยาเมื่อได้สัมผัสกับผิวกายของเรา และกลิ่นก็จะถูกกระุตุ้นให้ระเหยออกมาเมื่ออุณหภูมิในร่างกายของเราเปลี่ยน ง่ายๆ ก็คือว่า เมื่อน้ำหอม ถูกฉีดผ่านผิวเนื้อแล้ว จะค่อยๆผสานกับผิวกายที่เป็นกลิ่นที่ติดตัวเรามาตั้งแต่กำเนิด..กลิ่นเฉพาะตนทีคนหนึ่งก็มีกลิ่นหนึ่ง ไม่มีใครเลียนแบบกันได้ เมื่อกลิ่นของน้ำหอมและกลิ่นผิวกายผสมผสานกันในอุณหภูมิหนึ่ง ก็จะระเหยเผยกลิ่นของตัวเองออกมา

ดังนั้นก็เลยเกิดตัวอย่างที่ว่า บางทีคุณคนนี้้ใช้น้ำหอมชาเนล no.5 แล้วหอมจรุงไปทั่วออฟฟิศ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า คุณอีกคนใช้นำ้หอมกลิ่นเดียวกัน กลับทำให้รู้สึกว่ากลิ่นฉุนรุนแรง ออกจะเอียนๆ ด้วยซ้ำ

นั่นเป็นเพราะว่า กลิ่นของน้ำหอมกับกลิ่นกายผสมกันแล้วไม่เข้ากัน ไม่มีกลิ่นแนวบวกออกมา แต่กลับส่งกลิ่นแนวลบแทน
แล้วอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้คนเรากลิ่นไม่เหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือ อาหารการกินหรือรสนิยมในการรับประทานอาหารค่ะ

เช่น ถ้าคุณเป็นคนชอบกินเครื่องเทศ..ชอบมากๆ กระเทียม พริกไทย หอมใหญ่ ผักชี..อะไรพวกนี้ แต่คุณกลับเลือกน้ำหอมกลิ่นวนิลา ซึ่งเป็นกลิ่นไปทางหวานคล้ายขนม กลิ่นก็พากันไปในทิศทางที่ค่อนข้างแปลกประหลาด คล้ายๆ จะคลื่นเหียนเอาได้ง่ายๆ แต่หากคุณเลือกกลิ่นที่หอมเย็นๆ ตระกูลพฤกษาหรือตัดด้วยตระกูลพีช ก็จะทำให้คุณมีกลิ่นที่สดใจ เหมือนมีพลัง น่าตื่นเต้น และถ้าคุณชอบทานเผ็ดมากๆ หรือทานอาหารรสจัด เช่น เค็มจัด เผ็ดจัด แต่คุณเลือกน้ำหอม ที่มีส่วนผสมของตระกูลเครื่องเทศ ทีนี้เวลาเดินไปทางไหน…กลิ่นฉุน แรง ดุจดั่งเครื่องแกงรสร้อนก็กลายเป็นกลิ่นของคุณไป
ที่นี้ทำอย่างไรเราจะรู้ว่า น้ำหอมที่ขายอยู่บนห้างมากมายนี้จะเหมาะกับผิวกายของคุณได้ละ?

ดิฉันมีวิธีมาฝากค่ะ
เค้าว่ากันว่า การเลือกน้ำหอม ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายเลย

คุณลองเดินไปที่เคาท์เตอร์ที่วางน้ำหอมหลายๆ ยี่ห้อ เพื่อมองหากลิ่นที่ถูกใจดู แต่อย่าเพิ่งเลือกซื้อน้ำหอมกลิ่นแรกหรือกลิ่นที่สองที่คุณไปลองดมดูนะคะ เพราะประสาทสัมผัสของเรายังไม่ได้กระตุ้นทำงานใดๆ (อาจจะกลับมาเลือกทีหลังก็ได้ค่ะ) จากนั้น เมื่อคิดว่าได้กลิ่นที่ชอบที่เหมาะเจาะกับเราแล้ว ก็ให้ฉีดน้ำหอมลงบนหลังมือสักครั้งสองครั้ง แต่อย่าเพิ่งผลีผลามควักสตางค์จ่ายเงินโดยเด็ดขาด หาเรื่องไปกินไอศกรีม ไปเดินดูหนังสือสักพักหนึ่งก่อนนะคะ เพราะ น้ำหอมจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ที่จะทำปฎิกิริยากับอุณหภูมิในร่างกายของคนเรา สักพักกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายของเราจะเริ่มผสมผสานกัน

ทีนี้ละ..กลิ่นจะหอมรัญจวน หรือ หอมกำจาย หรือ หอมไม่เข้าใครออกใคร ก็จะปรากฎชัดเจนกันยามนี้
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่า กลิ่นกายของเรามีผลกับกลิ่นน้ำหอม คุณก็จะได้ครอบครองน้ำหอมที่ทำให้ตัวคุณหอมจริงๆ ได้ไม่ยาก แต่ว่า

แต่อย่าลืมนะคะ เรื่องกลิ่นกับบุคลิกภาพมีความสอดคล้องกันมากทีเดียว

ถ้าคุณรู้ว่าอุณหภูมิในตัวของคุณมันร้อน แล้วเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นคล้ายพฤกษา หอมเย็นๆ ก็จะทำให้คุณดูเป็นคนร่าเริง ไว้ใจได้ เหมาะกับการทำงานที่เกี่ยวข้องการพบปะผู้คน แต่ถ้าคุณอยากให้ตัวเองร้อนแรง เพิ่มกล่ิมน้ำหอมที่ส่งผลต่อสเน่หาทางเพศ และต้องไปทำงานกับผู้ชายเยอะๆ ก็ต้องขอเตือนให้ระวังตัวให้มากๆ นะ อำนาจของกลิ่นนี่..มีความรุนแรงอย่างคาดการณ์ไม่ได้เลยค่ะ
แต่ถ้าตรงกันข้ามถ้าคุณอยากจะมัดใจแฟนให้อยู่มัด ลองอ่านสูตรนี้ดูนะคะ
สำหรับคู่ที่เพิ่งคบกันประมาณ 1 ปี

ให้เลือกกลิ่นทีมีลักษณะเหมือนขนมหรือผลไม้

เช่น กลิ่นวานิลาและแอลมอล, กลิ่นส้ม, กลิ่นพีช เพราะกลิ่นเหล่านี้จะทำให้เขารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง และรู้สึกไว้วางใจที่จะอยู่กับคุณ
สำหรับคู่ที่คบกันมานานไม่เกิน 3 ปี

ให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่มีส่วนผสมกับดอกไม้หอม เช่น กุหลาบ, ดอกไม้ป่า เพราะกลิ่นเหล่านี้เป็นกลิ่นของความผูกพันและอ่อนหวาน ถ้าคุณลองฉีดพรมบนเครื่องนอนหรือโซฟา เขาจะถูกกระตุ้นได้ทุกครั้งเมื่อได้กลิ่น,เขาจะรู้สึกว่าคุณอยู่ใกล้ๆตัวเสมอ
สำหรับคู่ที่คบกันเกิน 3 ปี และยังไม่แต่งงาน
ให้เลือกกลิ่นหอมอ่อนๆ และฉีดแต่เบาบาง เมื่อพบเขา หรือบางโอกาส คุณอาจจะลองใช้กลิ่นใหม่แนวตะวันออกผสมกลิ่นประจำดูบ้าง โดยเฉพาะฉีดตอนที่คุณไปเล่นกีฬาด้วยกัน จะสร้างความน่าสนใจอย่างแปลกประหลาดค่ะ
สำหรับคู่ที่คบกันเกิน 3 ปี และแต่งงานแล้ว
ให้เลือกกลิ่นกล้วยไม้หรือกลิ่นที่ผสมไม้แก่นจันทน์ เพราะกลิ่นเหล่านี้จะทำให้เกิดความเร้นลับและน่าพิศวง และเลือกใช้กลิ่นเจลอาบน้ำที่เข้ากันด้วยนะคะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณสาวๆ อย่าระดมฉีดน้ำหอมให้มากเกินไปนะคะ เพราะว่า แทนที่จะมัดใจหนุ่มๆ ของคุณได้…อาจจะกลายเป็นว่า ทำให้เขาเวียนหัวหรือคัดจมูก พาลทะเลาะกันไปใหญ่โต อันนี้ดิฉันไม่รับรู้ด้วยนะคะ
Tips

เลี่ยงการฉีดน้ำหอมบนผ้า เพราะจะทำให้ผ้าด่างได้ ยิ่งผ้าไหมด้วยแล้ว จะทำให้ไหมกัดกันได้

ถ้าจะใช้เครื่องประดับไข่มุกในการแต่งกาย ให้ฉีดน้ำหอมก่อนแล้วจึงใส่ไข่มุก เพราะไข่มุกจะเสียหายได้