วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ค็อกเทล-- สีสันของวันแสนร้อน


อากาศร้อน เราอาจจะบรรเทาร้อนได้ด้วยการเปิดพัดลม นั่งอยู่ในห้องแอร์ หรือ อยู่ในที่อากาศเย็นสบายถ่ายเทสะดวกหรือใกล้น้ำ แต่ถ้าอากาศร้อนและอบอ้าว เผาความสบายไปถึงข้างในกาย เราคงต้องใช้ “ ความเย็น” เข้าช่วยละลายความร้อนในกายให้คลายลงได้

ยิ่งเป็น “ ความเย็น”ที่มีทั้งความหอม, ความหวานอมเปรี้ยวละเมียดละไม ผสมผสานกันจนเป็นสีสวยใสคล้ายลูกกวาด คุณจะห้ามความรู้สึกเย็นทั้งกายทั้งใจกับรสชาติที่ชวนหลงใหลได้อย่างไรคะ

ใช่ค่ะ ดิฉันหมายถึง ค็อกเทล เครื่องดื่มรสชาติหลากหลายหลากสไตล์ขวัญใจสาวๆค่ะ สำหรับคุณๆ ที่ช่วงนี้อาจจะรับนัดไปปาร์ตี้บ่อยหน่อยเนื่องจากมีงานเปิดตัวสินค้ามากมายในฤดูร้อนนี้ คงจะมีโอกาสดื่มค็อกเทลมากกว่าช่วงปรกติ ฉบับนี้ดิฉันจึงมีเรื่องเล่าและสไตล์ของค็อกเทลยอดฮิตมาฝากค่ะ

ก่อนอื่นมารู้จักค็อกเทลกันก่อนดีกว่าค่ะ

ค็อกเทลเป็นเครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่างความหวานของน้ำเชื่อม ความเปรี้ยวของน้ำผลไม้ ความเย็นของเกล็ดน้ำแข็ง และ รสชาติเนียนขมของแอลกอฮอล์ ผสมกันลงตัวได้อย่างแปลกประหลาดด้วยมนต์เสกของบาเทนเดอร์
สำหรับคนที่ชอบดูหนังและเกิดทันยุค 80 คงจำกันได้กับหนังสัญชาติอเมริกันเรื่อง “ ค็อกเทล” ที่นำแสดงโดยทอม ครุยซ์ หนุ่มบาเทนเดอร์ที่แสวงหาความสำเร็จจากการผสมค็อกเทลในรูปแบบสมัยใหม่
หนังเรืื่องนี้สร้างชื่อเสียงชนิดกู่ไม่กลับให้กับพระเอกเจ้าบทบาทคนนี้ พร้อมๆ กับเพลงโคโคโม่ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ ของท้องฟ้าสีฟ้าคราม เสียงคลื่นทะเล ความสนุกสนานและไอร้อนของจาไมก้า นอกจากนั้นแล้ว หนังเรื่องนี้ยังทำให้สาวๆ หันมาดื่มค็อกเทลจนกลายเป็นแฟชั่นสุดฮิตอยู่พักหนึ่งด้วยค่ะ

แม้จะเน้นว่าค็อกเทลเป็นเครื่องดื่มสำหรับช่วงอากาศร้อน แต่คุณก็สามารถดื่มได้ในช่วงฤดูอื่นนะคะ โดยเฉพาะในเมืองไทยของเรา ที่อากาศไม่เคยขาดหายความร้อนสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าประเทศตะวันตกจะนิยมดื่มค็อกเทลกันช่วงฤดูร้อนมากกว่า เพราะว่าถ้าอากาศหนาวๆ ฝรั่งนิยมดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เช่น ไวน์ หรือ วิสกี้ แต่สำหรับค็อกเทล ซึ่งมีแอลกอฮอล์อยู่แค่ 50% หรือ 60 % ของส่วนผสมทั้งหมด มักจะถูกจัดให้เป็นเครื่องดื่มเบาๆ เพิ่มอารมณ์แห่งความสนุกสนานเท่านั้น หรือ บางทีค็อกเทลก็เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มสำหรับเรียกน้ำย่อย เป็นเครื่องดื่มก่อนรับประทานอาหาร ว่ากันว่า จะทำให้อาหารอร่อยขึ้น ซึ่งอันนี้ ไม่รับประกันว่าจริงแท้แค่ไหน คงต้องแล้วแต่รสนิยม แต่ที่แน่ๆ ค็อกเทลไม่ควรดื่มระหว่างอาหาร เพราะรสชาติหวานๆของค็อกเทล จะทำให้ลิ้นของเราไม่สารารถรับรู้รสชาติของอาหารได้เต็มร้อยค่ะ

“แล้วค็อกเทลนี่ ตกลงคือเหล้าหรือเปล่า?” คุณๆ บางคนอาจจะยังมีคำถามอยู่ในใจ
จริงๆ ก็ถือว่าเป็นนะคะ เพราะค็อกเทลคือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเหล้าเป็นหลัก และเหล้าที่นิยมนำมาผสมกับค็อกเทลก็จะมีทั้งวอดก้า, รัม,ยิน,เตอกีร่า,วิสกี้, บรั่นดี บางค็อกเทลอาจจะใช้ลิเคียวผสมด้้วย เช่น ไบเล่ ไอริชครีม, มาลิบู, มาตินี
รายชื่อค็อกเทลรสชาติเยี่ยมนั้นยาวเหยียด แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีเรื ่องเล่าที่มาแตกต่างกัน ค็อกเทลแต่ละแก้ว ยังมีเอกลักษณ์บ่งบอกลักษณะนิสัยของผู้ดื่ม แถมบางทียังทำหน้าที่ส่งข้อความสื่อสารให้กับคนพิเศษอีกด้วย
เรามาดูว่ากันดีกว่าค่ะ ว่าค็อกเทลอะไรที่เป็นค็อกเทลยอดนิยมบ้าง
จากประวัติที่ค้นพบกันได้ เล่าว่าต้นกำเนิดของค็อกเทลอย่างเป็นทางการอยู่ที่แคลิฟอเนียประเทศอเมริกา โดยสูตรแรกที่ผสมออกมาคือ มาตินี ซึ่งเป็นค็อกเทลที่ค่อนข้างมีรสชาติเข้มข้น
ถือว่าเป็นค็อกเทลสูตรเก่าแก่สูตรหนึ่งของโลกค่ะ
มาตินีิ (Martini)
ถ้าสตรีคนใดสั่งมาตินีดื่มนี่ รับรองว่าเรียกเสียงฮือฮาของหนุ่มๆ ได้อย่างแน่นอน เพราะมาตินีเป็นค็อกเทลที่เน้นส่วนผสมของเหล้าเป็นหลัก จึงค่อนข้างแรงมากสำหรับผู้หญิง มาตินีจะนิยมเสริฟในแก้วมาตินีและประดับด้วยมะกอกดองเสียบไม้ แถมยังมีหลายชนิดเช่น ดาย มาตินี ( ยินเป็นหลัก) รัม มาตินี( รัมเป็นเหลัก) หรือ เลมอนเชลโล มาตินี ( วอดก้าเป็นหลัก)
มาตินีเป็นตัวแทนของความหนักแน่น ลุ่มลึก จริงจัง และค่อนข้างจะเด็ดขาด
คนมีชื่อเสียงที่ชอบมาตินีจึงเป็นบุคคลทีี่มีบุคลิกเข้มแข็ง เช่น อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ เชอร์ชิล วินสตัน, เจมส์ บอนด์, หรือสตรีเหล็กอย่าง วินฟรีย์ โอปร่าห์, หรือนักดนตรีอย่างแฟรงค์ ซิเนต้า
ส่วนมาดอนน่าสาวสองพันปี เลือกที่จะชอบดื่ม Pomegranate Martini หรือมาตินีทับทิม ค็อกเทลสีแดงสดใส ซึ่งมีทั้งส่วนผสมของความเข้มแข็งและอ่อนไหว ดูเซ็กซี่เย้ายวนทว่าเข้มแข็ง มีรสฝาดและขมปร่าผสมผสานกันอย่างลงตัว
มาการิต้า (Margarita)
มาการิต้าจะมีจุดเด่นอยู่ตรงรสของน้ำมะนาวผสมตัดกับรสเหล้าเตกิล่า ส่วนใหญ่นิยมตกแต่งรอบขอบแก้วด้วยเกลือ ทำให้ค็อกเทลมีรสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ และเค็มที่ปลายลิ้น ดังนั้น สาวๆ ที่สั่งมาการิต้าดื่มจึงถูกคาดหวังว่า จะเป็นสาวเปรี้ยว ชอบชีวิตอิสระ ชอบผจญภัยและความตื่นเต้น มีความกล้าไม่กลัวกับการใช้ชีวิต แต่ก็มีอารมณ์ที่โรแมนติกละเมียดละไม
ชายหนุ่มที่ชอบมาการิต้าเห็นจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก เฮอร์เมส แฮมมิงเวย์
โมฮิโต (้Mojito)
ค็อกเทลสัญชาติคิวบา มีส่วนผสมของรัมเป็นหลัก โมฮิโต้จะเน้นรสชาติเปรี้ยวๆ ของน้ำมะนาวผสมผสานกับรสหวานของน้ำเชื่อม และตบท้ายด้วยใบสาราแหน่ที่ถูกสับให้ละเอียดผสมกับน้ำแข็ง รสชาติจะออกมาในลักษณะกลมกล่อมแต่จัดจ้านและเข้มข้นใช้ได้ ดื่มมากๆ ก็อาจจะเมาได้ง่ายเหมือนกัน เครื่องดื่มชนิดนี้บ่งบอกบุคลิกของสาวร่าเริงปราดเปรียว มั่นอกมั่นใจในตัวเองแต่ก็แอบอ่อนไหวอยู่ในที ค็อกเทลชนิดนี้ สาวๆ ชอบกันหลายคน เพราะรสชาติอร่อย และส่วนใหญ่จะนิยมดื่มโมฮิโต้ในวันที่เหนื่อยล้าเพราะจะทำให้กระปรี่กระเป่าได้ทันทีด้วยสัดส่วนของส่วนผสมที่ให้คุณด้านพลังงาน

คอสโมโพลิแทนท์ (Cosmopolitan)

ค็อกเทลที่ใช้วอดก้าเป็นหลัก ผสมกับน้ำมะนาว น้ำแคนเบอรี่ และส้ม สีจะออกมาแดงเรื่อยๆ หรือชมพูอ่อนๆ มีรสชาติออกเปรี้ยว เหมาะกับคนที่ชอบรสเข้มข้นของความเปรี้ยวในผลไม้ คอสโมโพลิแทนท์ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของสาวๆ มากที่สุดในยุคนี้เหมือนกัน สาวๆ ที่ชอบคอสโมโพลิแทนท์ จึงเป็นตัวแทนของคนทันสมัยมีชีวิตชีวา สนุกสนานตลอดกาล รักและชอบฟังจังหวะของดนตรี ชอบความเคลื่อนไหวของผู้คน ชอบชีวิตในเมืองที่ทั้งวุ่นวายและมีสเน่ห์ และเป็นสาวแสนซนที่แอบเซ็กซี่เล็กๆ

ไหมไทย หรือ ไมไท (Mai Tai)
เครื่องดื่มสัญชาติไตฮิติ ที่แปลว่า “ยอดเยี่ยม หลุดโลกไปเลย” อะไรทำนองนั้น
เป็นค็อกเทลยอดฮิตชนิดหนึ่งของสาวไทย เพราะมีรสออกหวาน และสุดจะกลมกล่อม ทำให้สาวๆ ดื่มเอาๆ แต่ผลปรากฎว่าเมากระจาย เพราะอันที่จริงแล้วไหมไทยมีส่วนผสมของเหล้ารัมค่อนข้างมาก ต้องค่อยๆ ดื่มอย่างละเมียดจึงจะทำให้ได้รสอร่อยอย่างแท้จริง ไหมไทยเปรียบเสมือนสาวโรแมนติกที่ปรับตัวแสนเก่ง มีความอ่อนหวานน่ารัก จะไปไหนไปกันไม่เรื่องมาก แบบสาวลุยๆ ว่างั้นเถอะ

ลอง ไอแลนด์ ไอซ์ที (Long Island Ice Tea)
เห็นชื่อใสๆ แบบนี้ แต่เป็นค็อกเทลสำหรับคนคอแข็งโดยเฉพาะค่ะ ลองไอแลนด์ ไอซ์ที สูตรดั้งเดิมจะผสมโค้ก แต่ที่เด็ดสุดคือ มีส่วนผสมของเหล้าหลายชนิดด้วยกัน คือ ทั้งจิน, วอดก้า, เตกีล่า , รัม และ เหล้าหวาน จากนั้นถึงค่อยผสมกับน้ำชาหรือโค้ก คิดดูสิคะ ว่าเข้มขนาดไหน ลอง ไอแลนด์ ไอซ์ที เป็นตัวแทนของสาวๆ ที่รักสีสันยามค่ำคืน รักชีวิตสนุกสนานแบบไร้ขีดจำกัด และเต็มร้อยกับความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ และแม้ออกจะเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก แต่ก็มีความอดทนเหมือนกันนะ

ยกตัวอย่างพอหอมปากหอมคอเท่านี้ก่อนนะคะ อันที่จริงค็อกเทลยังมีอีกมากมายหลายรสหลายสไตล์ แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่น่าลิ้มลองทั้งนั้น เช่น เพื่อนสาวจากชิคาโกของดิฉัน เป็นคนคล่องแคล่วปราดเปรียว เธอชอบดื่ม Fuzzy Naval เพราะชอบรสเปรี้ยวปนหวานปนกลิ่นหอมๆของพีช ส่วนค็อกเทลที่กำลังฮิตสุดของชาวลอนดอนเนอร์ตอนนี้ชื่อว่า Pineapple passion ที่ทำให้คุณหลงใหลไปกับรสชาติหอมหวานของน้ำสับปะรด วอดก้า น้ำแคนเบอรี่ และเหล้าผลไม้ ส่วนประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา บารัก โอบามา ชอบดื่ม Americano ค่ะ

สำหรับคุณๆ ที่ไม่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ก็อยากดับร้อนกับเขาบ้าง อย่าเพิ่งเสียใจไปค่ะ เพราะค็อกเทลบางชนิดสามารถดื่มได้ โดยไม่ใส่แอลกอฮอล์ เพียงแต่ต้องบอกบาเทนเดอร์เท่านั้นเองค่ะ รับรองว่าอร่อยไม่น้อยหน้าค็อกเทลสูตรต้นตำรับค่ะ

การผสมเครื่องดื่มที่มาจากส่วนผสมของทั้งขมทั้งหวานทั้งเย็นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้น ต้องใช้ชั้นเชิงและจังหวะการผสมชั้นครู ดังนั้นถ้าคุณๆ สนใจที่จะยืนอยู่ในจุดของบาเทนเดอร์ ยอดนักมายากลของเครื่องดื่ม ก็สามารถเรียนเพิ่มเติมได้จากโรงเรียนที่สอนการผสมค็อกเทลหรือเครื่องดื่มที่เปิดอยู่มากมายในขณะนี้ อย่าลืมนึกถึงทอม ครุยซ์เข้าไว้นะคะ…คนเราถ้าคิดจะเอาดี ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว เมื่อตั้งใจเรียนรู้อย่างจริงจัง ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ค่ะ
ขอให้มีความสุขกับสีสันในวันแสนร้อนค่ะ

Tips
1. เวลาที่สั่งค็อกเทลเป็นช็อตมาดื่ม ให้ดื่มรวดเดียวหมด อย่าหยุด เพราะจะทำให้สะอึกได้
2. อย่าเติมน้ำแข็งลงในค็อกเทลที่ไม่ได้ผสมน้ำแข็งมาแต่แรก เพราะจะทำให้รสชาติเปลี่ยนได้
3. ถ้าสั่งค็อกเทลแบบสายรุ้งที่มาเป็นชั้นๆ อย่าคนให้สีปะปนกัน เพราะแต่ละชั้นมีรสชาติที่แตกต่างกันถ้าคนแล้วจะทำให้เสียรสชาติทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น