วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เรื่องบนโต๊ะ (อาหาร) 1


ช่วงเวลาสำคัญสำหรับชีวิตครอบครัวอย่างหนึ่ง คือ การรับประทานอาหารร่วมกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทานอาหารที่บ้านหรือทานที่ร้านอาหารก็ล้วนแล้วแต่สร้างความสนุกสนานให้กับสมาชิกใน
ครอบครัวทั้งนั้นค่ะ แต่อย่าได้มองแค่มุมเดียวนะคะ ว่าการรับประทานอาหารเป็นแค่ช่วงเวลาแห่งการพบปะสังสรรค์กันเท่านั้น บางที อาจจะเป็น ช่วงเวลาสำคัญทางธุรกิจ ที่คุณๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ทีี่่จะต้องปฎิบัติตัวให้ดูมีบุคลิกที่ดีค่ะ แหม..อย่าเพิ่งนึกว่า chic girl มาขู่ให้เกรงกลัวการออกงานสังคมนะ แต่เพราะเราเชื่อว่า ถ้าเรารู้ธรรมเนียมอย่างดีแล้ว เราย่อมทำทุกอย่างอย่างถูกต้องอย่างสมควรค่ะ ฉบับนี้ เราเริ่มจากการ สังสรรค์รับประทานอาหารเชิงธุรกิจก่อนค่ะ

การรับประทานอาหารในเชิงธุรกิจนั้น อาจจะหมายรวมไปถึง การเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วเลี้ยงรับรองลูกค้า หรือ เป็นลูกจ้างไปร่วมงานทานข้าวกับเจ้านาย หรือ ผู้ร่วมงานก็ได้ค่ะ มาเริ่มจากการจัดโต๊ะอาหาร ก่อนนะคะ ส่วนใหญ่แล้ว งานเลี้ยงอาหารในเชิงธุรกิจจะไม่ค่อยนิยมจัดแบบบุฟเฟ่ เพราะต้องการเน้นเวลาเพื่อต่อยอดในการคุยเรื่องราวทางธุรกิจ และส่วนใหญ่แล้ว ตำแหน่งที่นั่ง จะถูกจัดลำดับความสำคัญไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ที่นี้มาดูลายละเอียดเรื่องบนโต๊ะกันค่ะ
ผ้าเช็ดปาก
เราจะเริ่มจากผ้าเช็ดปากก่อนค่ะ สำหรับผ้าเช็ดปากที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น เราจะหยิบและค่อยคลี่ๆออก แล้วจึงวางไว้บนตัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องดูด้วยว่า เจ้าภาพ หรือ เจ้านาย ที่เป็นหัวหน้าทีม เริ่มวางผ้าเช็ดปากแล้วหรือยัง ถ้ายัง เราต้องรอจนกว่าหัวหน้าทีมจะวางผ้าบนตักเขาหรือเธอก่อนค่ะ กรณีนี้ ถ้าบริกรสังเกตุว่าเจ้าภาพยังคงสนุกกับการสนทนาจนลืมจัดการเรื่องของผ้า พวกเขาจะ จัดแจงคลี่ผ้าออกแล้ววางบนตักให้เจ้าภาพเลยค่ะ ซึ่งนั่นถือเป็นสัญญานบ่งบอกว่า การรับประทานอาหารกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วค่ะ ในระหว่างรับประทานอาหารนั้น คุณสามารถใช้ผ้าเช็ดปากได้ตลอดเวลา แต่เวลาใช้ อย่าเช็ดแบบถูๆ ให้คุณใช้เฉพาะมุมผ้าเช็ดปากแบบเบาๆเท่านั้น เมืื่อคุณรู้สึกอิ่มแล้ว ให้วางผ้าเช็ดปากบนโต๊ะตรงด้านซ้ายมือหรือขวามือของคุณก็ได้ค่ะ นั่นถือเป็นการบ่งบอกว่าคุณรับประทานอาหารเสร็จแล้ว บริกรจะรีบมาเก็บจานไปทันทีค่ะ (อย่าเผลอวางผ้าเช็ดปากทั้งๆที่ยังไม่อิ่มนะคะ) แต่ถ้าคุณมีอันต้องลุกไปทำธุระระหว่างรับประทานอาหารทั้งๆที่ยังไม่อิ่ม ให้วางผ้าเช็ดปากบนเก้าอี้หรือพนักเก้าอี้ก็ได้ค่ะ รับรอง กลับมานั่งโต๊ะ อาหารยังไม่ถูกยกไปไหนๆแน่นอนค่ะ
การจัดโต๊ะ
อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารนั้น จะถูกจัดไว้ตั้งแต่แรก แต่จะมีการสับเปลี่ยนได้ ถ้าคุณสั่งเมนูที่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น สั่งอาหารที่มีปลาเป็นหลัก คุณจะเห็นว่า การจัดอุปกรณ์สำหรับทานนั้นจะวางเป็นระเบีียบเรียบร้อย เรียงจากด้านนอกเข้าหาด้านในตัว ด้านนอกสุดจะเป็นจุดเริ่มต้นของอาหารค่ะ ส่วนใหญ่จึงใช้สำหรับ Starter ถ้าคุณทานสลัด คุณจะต้องหยิบส้อมจากทางด้านซ้ายมือสุด และมีดจากทางด้านขวามือสุด แต่ถ้าคุณสั่งซุป ช้อนซุปจะวางอยู่ขวามือสุด นอกเสียจากคุณไม่ได้สั่งstarter บริกรจะเตรียมอุปกรณ์ไว้สำหรับเมนูหลักให้เลยค่ะ ส่วนช้อนและส้อมที่มีขนาดเล็กมากและวางอยู่เหนือช่องสำหรับวางจานอาหาร คือ ช้อนและส้อมสำหรับทานของหวานและชากาแฟค่ะ


การสั่งอาหาร
ส่วนใหญ่การรับประทานอาหารลักษณะนี้ นิยมเลือกแบบ Course menu คือ จัดอาหารเป็นชุด และเรียงเป็นลำดับตามคอร์สต่างๆ ค่ะ เพราะฉะนั้น จึงเริ่มจากสั่งเครื่องดื่มก่อน แล้วจึงสั่ง starter ตามด้วย main course หรือชุดอาหารหลัก และจบลงด้วยของหวานค่ะ
ถ้าจะให้กันความหน้าแตกระหว่างรับประทานอาหาร ต้องพึงระวังการสั่งอาหารไว้ด้วยนะคะ เช่น ถ้าคุณเป็นคนทานน้อย อะไรนิดหน่อยก็เริ่มอิ่ม ควรเลือก starter เป็นพวกสลัดผัก อย่าเริ่มด้วยซุปเชียวนะคะ เพราะซุปจะทำให้อิ่มมาก ส่วน main course นั้น ก็ต้องคอยระวังอาหารเป็นพวกเส้้นๆ เช่น สปาเกตตี เพราะถ้าไม่ถนัดเรื่องม้วนเส้นจริงๆ จะทำให้ทานไปเกร็งไปได้ค่ะ ถ้าคุณเลือก
ทานปลา และอยากดื่มไวน์ประกอบ ก็ควรเลือกทางไวน์ขาวค่ะ เพราะไวน์ขาวจะทำให้ทานปลาอร่อยขึ้น ส่วนถ้าคุณเลือกพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้เลือกทานกับไวน์แดงค่ะ

การดิื่มไวน์
ในระหว่างที่รออาหาร บริกรมักเสิรฟเครื่องดื่ม และในกรณีที่สั่งไวน์เป็นขวดมาดื่มนั้น บริกรมักนำไวน์มาให้ทดลองดื่มก่อนที่รินแจกทุกคน โดยจะรินไวน์ในแก้วไวน์สักส่วนหนึ่งเพื่อให้ทดลองชิม ส่วนใหญ่จะนิยมให้เจ้าภาพเป็นผู้ชิม แต่บางทีเจ้าภาพจะแนะนำให้สุภาพสตรีเป็นผู้ชิม และในกรณีนี้นั้น พวกสาวๆ ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม อย่าทำท่าทางอายและตอบปฎิเสธ แต่ให้รับแก้วไวน์มาชิมได้เลยค่ะ วิธีชิมก็ง่ายๆ เริ่มจากการแกว่งแก้วไวน์เพียงเล็กน้อยก่อน แกว่งเบาๆพอให้อากาศออกไปจากเนื้อไวน์ จากนั้นค่อยๆยกแก้วไวน์ขึ้นดม พอให้รับรู้กลิ่น แล้วจึงบรรจงดื่มช้าๆ อย่าเพิ่งกลืนไวน์ทันทีแต่ให้อมไว้สักพักเพื่อรับรู้รส จากนั้น จึงค่อยๆ กลืนลงลำคอ ขออย่าตกใจ เมื่อในระหว่างปฎิบัติการสำคัญนี้ ทุกสายตาจะหยุดมองมาที่คุณ เพราะว่าคุณเป็นคนตัดสินรสชาติในเวลานี้ค่ะ ทันทีที่คุณกลืนไวน์ลงลำคอแล้ว สิ่งที่คุณควรตอบสนองต่อบริกร คือ บอกว่าไวน์นั้นดีหรือไม่ และแน่นอนค่ะ ส่วนใหญ่จะตอบว่า “ดี”
เพราะรสชาติไวน์จากแก้วนั้น มักผ่านการคัดเลือกจากเจ้าภาพมาแล้วค่ะ

ฉบับนี้้ถือว่า เป็นอรัมภบทเรื่องราวบนโต๊ะอาหารนะคะ ฉบับหน้า เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการรับประทานอาหารตั้งแต่ Starter จนถึง ของหวานค่ะ
Enjoy your meal ค่ะ Cheers!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น